Review: Final Fantasy VII Remake ตำนานที่ยิ่งใหญ่ สู่ความยิ่งใหญ่ที่ยิ่งกว่า !!

Funnygamings : รีวิว Final Fantasy VII Remake

23 ปีผ่านไปแล้ว นับตั้งแต่เกม Final Fantasy VII ออกมาให้เล่นกันครั้งแรก เมื่อวันที่ 31 มกราคม 1997 และมันก็ได้กลายเป็นเกมซีรี่ส์ Final Fantasy ที่มีแฟนๆชื่นชอบมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ทำให้ทาง Square Enix มีการทำภาคเสริมต่อขยายมากมายหลายภาค ไม่ว่าจะเป็นภาคในมือถือ เครื่อง PSP และยังมีเป็นภาพยนตร์ให้ชมกันอีก ถึงกระนั้นแฟนๆก็ยังไม่พอใจ อยากจะให้ Square Enix นำมารีเมคให้สวยขึ้น ซึ่งแรกๆก็ปฏิเสธไม่ยอมทำ แต่สุดท้ายก็ทนกระแสไม่ไหวยอมทำ Final Fantasy VII Remake ให้เราได้เล่นกันจนได้ในวันนี้

Final Fantasy VII Remake เป็นเกมภาครีเมค ที่แปลกแตกต่างไปจากเกมรีเมคอื่นๆของ Square Enix ที่เคยทำมา เพราะเกมรีเมคอื่นๆนั้นจะเปลี่ยนไปก็แค่กราฟิก ส่วนระบบการเล่นและเกมเพลย์ไม่ต่างจากเดิมนัก แต่กับ Final Fantasy VII Remake ต้องเรียกว่ามันแทบจะกลายเป็นคนละเกม ถ้าไม่นับในส่วนของเนื้อเรื่องหลักของเกมกับไอเทมต่างๆแล้ว แทบจะเป็นเกมใหม่เลย งั้นเรามาเริ่มรีวิวเปรียบเทียบกันเลยดีกว่าว่า Final Fantasy VII Remake มีอะไรที่เปลี่ยนไปบ้าง

ในส่วนเนื้อหาสตอรี่ ยังคงเจาะลึกโฟกัสที่เรื่องราวของแก๊ง Avalanche กลุ่มคนชนชั้นล่างที่รวมตัวกันหมายหยุดยั้งขัดขวาง Shinra Company บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ที่สร้างเตาปฏิกรณ์ Mako Reactor ขึ้นมาเพื่อสูบพลังชีวิตของโลกแล้วแปรเปลี่ยนมันเป็นไฟฟ้าให้คนในเมืองหลวงได้อยู่สุขสบาย ซึ่งภารกิจของพวกเขาเหล่าผู้รักษ์โลก คงมิอาจสัมฤทธิ์ผลได้ตามจุดมุ่งหวัง หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจาก Cloud Strife พ่อหนุ่มตัวเอกหัวตั้งของเรา อดีตทหารรับจ้างบริษัทชินระ ผู้แปรพักตร์หันมาจับดาบต่อสู้ผดุงความถูกต้องไปพร้อมกับผองเพื่อนสนิทมิตรสหายร่วมอุดมการณ์

ตัวเกมจะไม่ใช้ระบบเทิร์นเบสผลัดกันตีคนละตา รอเวลาใส่คำสั่งแบบเดิมๆเหมือนต้นฉบับ แต่จะเปลี่ยนมาใช้ระบบเกมเพลย์ แอ็คชั่นอาร์พีจี แบบเต็มตัว ที่มอบโอกาสให้ผู้เล่นบังคับตัวละครออกแอ็คชั่นพื้นฐานต่างๆได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเดิน จะโจมตี จะตั้งการ์ด จะวิ่งหนี หรือกลิ้งหลบ ล้วนสามารถทำได้ตลอดเวลาไม่มีเงื่อนไขใดๆ ยกเว้นแค่ตอนปลดปล่อยท่าไม้ตาย, ร่ายเวทย์ หรือกดใช้ไอเทมเท่านั้น ที่ยังคงต้องรอเวลาให้เกจ Active Time Battle เด้งขึ้นมาเต็มเสียก่อน ซึ่งเจ้าเกจนี้จะยิ่งเพิ่มไวขึ้นหากเราขยันโจมตีใส่ศัตรู และเมื่อใดก็ตามที่เกจ ATB เต็ม เราสามารถกดปุ่ม X เรียกเปิดหน้าต่างเมนูขึ้นมาเพื่อใส่คำสั่ง โดยระหว่างนี้ตัวเกมจะหน่วงชะลอทุกสิ่งอย่างในฉากให้ช้าลงเพื่อให้เรามีเวลาคิดแผนจิ้มเลือกแอ็คชั่นถัดไปได้สบายๆ ไม่ต้องรีบร้อนเหมือนตอนที่เราเคยเล่นเกมนี้เมื่อ 20 ปีก่อน แต่ถ้าใครรู้สึกไม่ทันใจจะตั้งค่ากำหนดชอร์ตคัตของคำสั่งต่างๆเพื่อไม่ต้องเสียเวลากดเข้าออกเมนูบ่อยๆ ก็ย่อมได้

ด้วยความที่มันแปรเปลี่ยนมาเป็นเกมแอ็คชั่นเต็มรูปแบบ รัวกระหน่ำทำคอมโบฟาดฟันใส่ศัตรูได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด ดังนั้นเพื่อความสนุกและสมดุล เหล่ามอนสเตอร์กระสอบทรายทั้งหลายภายในเกม จึงจำเป็นต้องมีพลังเลือด HP ที่สูงกว่าปกติ โดยเฉพาะบรรดาบอสใหญ่ ที่อึดถึกแสนทนทายาด เพียงแค่การโจมตีปกติธรรมดาคงไม่อาจทะลุผ่านผิวหนังอันหนาเตอะของมันได้ แต่โชคดีที่เกมนี้เราสามารถทำให้มอนฯเลือดเยอะเหล่านั้นอ่อนแอลงชั่วขณะได้ ผ่านฟีเจอร์มาใหม่ที่เรียกว่า Staggered ระบบสตันทำให้ศัตรูเป็นง่อยการ์ดตกชั่วคราว โดยทุกครั้งที่เราโจมตีหรือยิงเวทย์ที่มันแพ้ทาง เกจสีส้มที่อยู่ใต้หลอดเลือดของมันจะค่อยๆสะสมเพิ่มสูงขึ้นจนเต็ม จากนั้นมันก็จะสตันหยุดยืนเป็นเป้านิ่งให้เรารุมยำใส่ทุกอย่างที่มี ซึ่งศัตรูแต่ละตัวนั้นก็จะมีการแพ้ธาตุ รวมถึงจุดอ่อนที่ง่ายต่อการสตันไม่เหมือนกัน และเป็นหน้าที่เราในฐานะคนเล่นที่ต้องค้นหามันให้เจอ

สำหรับสกิลอบิลีตี้ต่างๆของตัวละคร ยังคงอาศัยการติดตั้งลูกแก้ว Materia ลงไปบนอาวุธและอุปกรณ์ที่เราสวมใส่ เพื่อเรียกใช้ความสามารถนั้นๆในระหว่างการต่อสู้ ซึ่งมีตั้งแต่คาถาเวทมนตร์พื้นฐาน เทคนิคแปลกๆใหม่ๆ ไปจนถึงบัฟหลากหลายที่มีประโยชน์ โดยลูกแก้วไหนที่ถูกเราใช้งานบ่อยๆ มันจะมีการขยับอัพแรงค์เพิ่มดาว ปลดล็อคคาถาในระดับที่แรงขึ้น หรือหากเป็นบัฟก็จะมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นตาม ขณะเดียวกันทางฝั่งลูกแก้วประเภท มนต์อสูร ก็มีมาให้เลือกติดตั้งด้วยเช่นกัน แต่ทว่าการกลับมาคราวนี้ พวกมันจะขอยืนหยัดร่วมต่อสู้อยู่เคียงข้างเราเสมือนเป็นสมาชิกคนที่ 4 ในปาร์ตี้ จนกว่าเวลาในการเรียกใช้งานจะสิ้นสุดลง มิได้โผล่มาจัดหนักตูมเดียวแล้วเงียบหายกลับเข้าตำหนัก แบบที่ผ่านๆมาหรอกนะ

ถึงแม้รูปลักษณ์และระบบเกมเพลย์จะพยายามหลอกให้เราหลงเชื่อว่ามันเป็นเกมแอ็คชั่นเรียลไทม์ แต่ความจริงมันก็ยังคงเป็นเกมอาร์พีจี ที่เราต้องคอยออกคำสั่งให้กับสมาชิกทุกคน เพราะหากเรามัวสนใจเพียงแค่ตัวละครที่เราบังคับ สมาชิกคนอื่นๆในทีมที่ควบคุมโดยคอมพิวเตอร์ AI ก็จะเอาแต่ตั้งการ์ด ยืนบื้อไม่โจมตีหรือทำอะไรให้เกิดประโยชน์ ส่งผลให้เกจ ATB ขึ้นช้าพาเสียแผนไปหมด ซึ่งวิธีเล่นที่ถูกต้องคือการหมั่นสวิตช์เปลี่ยนสลับตัวละครไปมาอยู่ตลอดเวลา เพื่อใช้ทุกสิ่งที่มีอย่างเต็มที่ และป้องกันไม่ให้ตัวละครใดตกเป็นเป้าโจมตีของศัตรูอยู่ตัวเดียว อันมีความเสี่ยงสูงที่จะนอนยาว โดยเฉพาะแม่สาวซัพพอร์ตเอวบางร่างน้อยอย่าง เอริธ ที่คุณมิอาจสวมวิญญาณเล่นเป็นเธอได้นานเกิน 5 วินาที

กราฟิก ถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่ได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างมาก เพราะมันช่างสวยงามหยดย้อยก้าวข้ามเกมยุคเจเนอเรชันนี้ไปแล้ว ทั้งเอฟเฟกต์ ฉากหลัง 3D ยันผิวหน้าตัวละครที่เห็นชัดถึงรูขุมขน เอาเป็นว่าถ้าใครเคยรับชมภาพยนตร์แอนิเมชั่น Final Fantasy VII: Advent Children แล้วรู้สึกประทับใจ นั่นแหละคือสิ่งที่คุณจะได้เห็นตลอดตั้งแต่ต้นจนจบในเกมเวอร์ชันรีเมคนี้ ที่คุณภาพความงดงามไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลย แถมมันไม่ได้มีดีเพียงแค่ภาพสวยเท่านั้น เพราะงานทางด้าน ดนตรีประกอบ ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน พร้อมกับเสียงพากย์ของเหล่าตัวละคร NPC ประดับฉาก ที่มักขยับปากแอบพูดคุยซุบซิบนินทาให้เราได้ยินทุกครั้งยามเดินเฉียดเข้าใกล้ ไม่ต้องมาขยี้ตานั่งอ่านกล่องข้อความยาวเหยียดให้เสียเวลา

ติดตามรีวิวเกมได้ที่ : Funnygamings

ติดตาม Page Facebook ได้ที่ : Funnygamings