รีวิวเกม Endless Dungeon เป็นผลงานล่าสุดของทีมพัฒนา Amplitude Studios ที่มีชื่อเสียงค่อนข้างดีมากๆ คราวนี้พวกเขากลับมาทำเกมจาก Endless SAGA ซีรีส์สร้างชื่อของพวกเขากันอีกครั้ง ถึงแม้จะเคยมีเกมชื่อคล้ายๆ กันอย่าง Dungeon of the Endless วางขายไปเมื่อ 9 ปีก่อน แต่ทั้งสองเกมก็ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกันสักเท่าไหร่ เพียงระบบการเล่นที่ถูกต่อยอดกันมาเท่านั้น ส่วน Endless Dungeon จะกลายเป็นชิ้นงานคืนฟอร์มของทีมพัฒนาได้หรือไม่ เรียนเชิญอ่านบทรีวิวด้านล่างได้เลยครับ
เนื้อเรื่อง
Endless Dungeon จะมีเซ็ตติ้งโลกในแนวทางแบบ Western ผสมผสาน ความเป็น Sci-fi fantasy ที่ซึ่งสิ่งมีชีวิตในจักรวาลแห่งนี้สามารถเดินทางข้ามอวกาศกันเป็นเรื่องปกติ และเล่าถึงสถานีอวกาศลึกลับแห่งหนึ่งที่แม้ภายนอกจะดูรกร้างน่าขนหัวลุก แต่ก็มักจะดึงดูดยานอวกาศที่ผ่านมาเข้าหามันอยู่เสมอ
ทว่าไม่ว่าใครที่หลงเข้าไปในที่แห่งนั้นกลับไม่สามารถหาทางออกมาได้ด้วยเหตุผลบางประการแม้ว่าผู้คนในที่แห่งนั้นจะพยายามขนาดไหนก็ตาม ซึ่งแน่นอนว่าเป็นหน้าที่ของผู้เล่นในการจะต้องพากลุ่มตัวละครติดหล่มเหล่านี้ฝ่าสารพัดอันตรายในดันเจี้ยนมหาภัยเพื่อหาทางออกที่ไม่เคยมีใครพบเจอให้จงได้ครับ
เพราะว่า Endless Dungeon เป็นเกมแนว Rogue-lite ที่เน้นการลุยด่านแบบ Co-op (แต่เล่นคนเดียวได้) ทำให้เกมนี้อาจจะไม่ได้โดดเด่นในแง่ของการเล่าเรื่องหรือมีพล็อตตรึงให้ผู้เล่นรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวอยากจะรู้เรื่องราวในเกมอะไรขนาดนั้น ทว่ามันก็ยังมีส่วนของ Lore ยิบย่อยให้ได้ไล่เก็บตามด่านเพื่อปลดล็อคเรื่องราวในเกมเพิ่มเติมซึ่งจะถูกเล่าในรูปแบบของภาพกราฟิกโนเวล รวมไปถึงเนื้อเรื่องของคาแรคเตอร์ผ่านเควสต์ย่อยประจำตัวซึ่งจะทำให้ผู้เล่นรู้จักกับตัวละครนั้นๆ มากยิ่งขึ้น
เสียง
ศัตรูแต่ละชนิดรวมไปถึงตัวละครแต่ละตัวจะมีเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ชัดเจน ทั้งตอนยิงปะทะหรือว่าแอมเบี้ยนท์ต่างๆ ก็ทำได้โอเค ทิศทางของเสียงก็ชัดเจนสามารถระบุได้ว่าเป็นเสียงของศัตรูจากทางไหน ช่วยในการเล่นได้ในหลายๆ ครั้ง นอกจากนี้ให้ห้องล๊อบบี้ Saloon ซึ่งถูกดีไซน์มาให้เหมือนผับบาร์ในบางครั้งก็จะมี NPC ขึ้นเวทีไปร้องเพลงซาวด์แทรคของเกม ทำให้ผ่อนคลายอยู่เหมือนกัน
กราฟิก
จุดเด่นของเกมที่พลิกโฉมไปจาก Dungeon of the Endless เลยก็คือกราฟิก 3 มิติ เต็มรูปแบบ ที่แม้จะเป็นมุมมองแบบ Isometric แต่คุณภาพก็ทำได้ดีมีความคมชัด ตัวละครมีเอกลักษณ์ในแง่ของรูปลักษณ์ค่อนข้างชัดเจนทำให้แยกได้ง่าย เอฟเฟกต์ตอนต่อสู้ก็ดูดีฉูดฉาดมีการใส่ความเป็นการ์ตูนเข้ามาผสม ปะทะบอสก็มีความอลังมากๆ มูฟเมนต์ศัตรูก็แจ่มเจ๋ว คือในภาพรวมกราฟิกของ Endless Dungeon อาจไม่ได้มีความเว่อวังอะไร แต่ก็ยอดเยี่ยมพอให้ผู้เล่นรู้สึกอินไปกับเกมได้อย่างไม่ยากไม่เย็น
เกมเพลย์
Endless Dungeon เป็นเกมที่ยกระบบและต่อยอดมาจาก Dungeon of the Endless ได้อย่างน่าสนใจ หลักๆ ก็คือคุณและเพื่อนจะเลือกเซ็ตของตัวละครลงไปในด่านที่มีการสุ่มทุกๆ อย่าง ในทุกๆ รัน หน้าที่หลักคือการป้องกัน Crystal Bot ไม่ให้โดนทำลาย ในขณะเดียวกันก็ต้องพาเจ้าน้อนตัวนี้ไปเปิดประตูเพื่อเข้าสู่ด่านถัดๆ ไปด้วย ซึ่งแม้จะเรียบง่ายในการอธิบาย แต่ตัวเกมก็มีระบบที่ลึกพอให้เราเล่นวนซ้ำหลายๆ รอบ โดยที่ไม่ตายจนเบื่อไปเสียก่อน
คุณจะเจอระบบสุ่มในแทบทุกๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของแผนที่, สิ่งที่รอคอยอยู่ในแต่ละห้อง, ตัวเลือกการอัปเกรดและการวิจัย, กล่องอาวุธ, จุดเกิดมอนสเตอร์ ฯลฯ แต่ในความสุ่มแทบทุกอย่างเราก็ยังคงสามารถวางแผนหรือแก้ไขสถานการณ์ได้ อย่างการวิจัยป้อมปืนในพื้นที่ที่เราแพลนจะไป, การเปิดห้องเพื่อจำกัดเส้นทางการเดินของมอนสเตอร์ หรือการวางป้อมปืนในตำแหน่งที่เกมมีให้อย่างจำกัดว่าจุดใดจะเกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมไปถึงการวางแผนทรัพยากรให้เหลือใช้ในด่านยากๆ มากที่สุด ทั้งหมดทั้งมวลมันจึงเกิดเป็นความบาลานซ์ที่ค่อนข้างดี คือในปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ เกมก็ยังมีช่องทางคร่าวๆ ให้เราเห็นและหาทางแก้ปัญด้วยตัวเองหรือร่วมกันกับเพื่อน ซึ่งมันจะแตกต่างกันไปในแต่ละรัน ทำให้เราได้ความรู้สึกสดใหม่แทบทุกครั้งในการเล่นครับ
แต่เราจะวางแผนเพื่อรับมือกับการสุ่มนี้ได้ดีที่สุดก็ตอนที่เรามีชั่วโมงบินที่มากพอ ซึ่งจะมาจากการเกิดตายวนเวียนนี่แหละ เมื่อตัวละครตายยกทีมหรือ Crystal Bot ถูกทำลาย ผู้เล่นจะกลับมาที่ Saloon อีกครั้ง ซึ่ง ณ ที่แห่งนี้ผู้เล่นสามารถอัปเกรดตัวละคร, อาวุธ หรือเพิ่ม Quality of life รวมถึงปลดล็อคด่านกับ Lore เพิ่มเติมก็ย่อมได้เช่นกัน มันจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณจะตายบ่อยๆ เพราะเมื่อคุณตายบ่อย ประสบการณ์ก็จะมากขึ้น นัยหนึ่งมันก็เหมือนว่าผู้เล่นเก่งขึ้นเป็นเงาตามตัว
แต่ไม่ใช่แค่ผู้เล่นที่มีสิทธิ์เก่งขึ้น เมื่อลงในชั้นลึกๆ มอนสเตอร์เองก็จะมี Tier ที่สูงขึ้นเช่นกัน และไม่ใช่แค่ว่ามันจะตีแรงขึ้นหรือถึกขึ้นเท่านั้น หลายๆ ตัวจะมีลูกเล่นเฉพาะของตัวเองเช่นบางตัวมีหัวเป็นโล่ทำให้ยิงจากด้านหน้าไม่ได้ หรือบางตัวหากถูกยิงด้วยปืนธาตุใดมันก็จะ Immune ธาตุนั้นไปเลย ต้องเปลี่ยนปืนอีกธาตุมายิงเป็นต้น ทำให้ต้องใช้สกิลเพลย์พอสมควรในการรับมือศัตรูด่านหลังๆ ที่แค่ปืนแรงมันเริ่มไม่พอแล้ว
นอกจากนี้ตัวเกมยังมีหนทางเพิ่มความท้าทายหรือทำให้มันสะดวกขึ้นจากการซื้ออัปเกรด เช่นการลงด่านแบบติด Challenge ที่ว่าฟื้นเลือดด้วย Medkit ไม่ได้ ต้องหวดศัตรูด้วยอาวุธระยะประชิดเอา หรือการซื้อ Chip เพิ่มความสามารถตัวละครแบบถาวรก็ทำได้เช่นกัน เหล่านี้มันทำให้รันแต่ละครั้งก็จะบังเกิดโมเมนต์ที่มีความเฉพาะตัว และสนุกขึ้นมาก ส่วนใครที่อยากเล่นคนเดียวหรือหาคนมา Co-op ด้วยไม่ได้ ข่าวดีก็คือ Bot ของเกมนี้นั้นฉลาดพอที่จะวิ่งจนสุดรันไปกับคุณ มันจะไม่ค่อยตายโง่ๆ ซัพพอร์ตก็ทำได้บ่อย ทำหน้าที่พื้นฐานอย่างการคุมพื้นที่หรือป้องกัน Crystal Bot ได้ดี ข้อเสียชัดๆ เพียงอย่างเดียวของ Bot คือมันไม่ใช้ท่า Ultimate ครับ หากอยากจะใช้ผู้เล่นต้องสลับไปบังคับตัวละครนั้นแทน
สรุป
รีวิวเกม Endless Dungeon เป็นเกมแนวที่สามารถเล่นกับเพื่อนแล้วสนุกสนานได้ไม่ยาก เพราะมันมีความช่วยเหลือ แบ่งหน้าที่กันทำ โหวกเหวกโวยวายแน่นอน ขณะที่แก่นการเล่นของเกมก็มีความลึกและแข็งแรง ถูกออกแบบมาอย่างประณีตไม่ใช่งานที่ลวกๆ บั๊กร้ายแรงไม่มีให้เห็นแต่อย่างใด สำคัญที่สุดคือแม้เล่นคนเดียวกับบอทก็ยังสนุกมากๆ อันนำมาซึ่งข้อเสียใหญ่เพียงไม่กี่อย่างของเกมคือเมื่อลองเทียบกับงานก่อนหน้าของทีมพัฒนา Amplitude Studios ซึ่งมักจะอัดแน่นไปด้วยคอนเทนต์เล่นยาวๆ แล้ว Endless Dungeon นั้นแม้จะเล่นได้ยาวๆ เช่นกัน แต่คอนเทนต์ที่มีตอนเกมวางจำหน่ายนั้นอาจจะรู้สึกว่าน้อยไปสักหน่อย โดยเฉพาะ Roster ของตัวละครที่มีเพียยง 8 ตัวละครเท่านั้น แม้จะเป็น 8 ตัวละครที่มีความโดดเด่นและน่าสนใจไม่แพ้กันก็ตาม หวังว่าเกมจะมีอัปเดตคอนเทนต์ใหม่ๆ เพิ่มเติมเข้ามาในอนาคต เพราะเมื่อมันมากพอจริงๆ ผู้เล่นจะสามารถวิ่งตะลุย Dungeon ด้วยความสนุกสนานแบบ Endless สมชื่อแน่นอนครับ
Endless Dungeon วางจำหน่ายแล้ววันนี้บน Steam ครับ หรือคลิกที่นี่ได้เลย
อ่านข่าวสารวงการเกมอื่นๆ ได้ที่ : funnygamings.com
