Review: Control หญิงสาวผู้ที่มาพร้อมกับพลังจิต !!

Funnygamings : รีวิว Control

เมื่อใดที่เราคุ้นเคยกับตัวเกม เกม Control จะกลายเป็นเกมที่ดูน่าสนใจขึ้นมาทันที ตัวเกมจะให้เวลามากพอที่จะให้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวละคร สภาพแวดล้อม และค่อยๆ หยิบกลไก รวมไปถึงสกิลใหม่ๆ มาเล่น หรือใช้งาน รวมไปถึงบรรยากาศที่น่ากลัวของตัวเกม ภายในเกมจะสร้างคำถามให้เราได้สงสัยอยู่ตลอด มันเต็มไปด้วยความคลุมเครือ ไม่กระจ่าง เป็นสีเทาๆ ซึ่งนั่นถือเป็นเสน่ห์ของตัวเกม มันน่าอัศจรรย์ ลึกลับ ซึ่งใน Control ความรู้คือพลัง และบ่อยครั้งที่ความรู้ก็เปิดไปสู่ประตูความเป็นไปได้ ที่เราไม่เคยรู้มาก่อน

เนื้อเรื่อง

Control จะเล่าเรื่องราวของสาวแกร่งคนหนึ่งนามว่า Jesse Faden ที่ได้รับตำแหน่งให้มาเป็น Director ขององค์กร Federal Bureau of Control (FBC) หน่วยงานลับของรัฐบาลที่คอยจัดการเกี่ยวกับสิ่งเหนือธรรมชาติ แต่บังเอิญภายในหน่วยงานนี้เองก็ถูกศัตรูลึกลับนามว่า The Hiss เข้าโจมตีในอาคาร จึงทำให้วันแรกที่ทำงานเรานั้นจะต้องแก้ไขสถานการณ์เพื่อฟื้นฟูองค์กรให้กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง, หาสาเหตุปริศนาของพลังเหนือธรรมชาติที่เกิดขึ้น รวมถึงเสาะหาน้องชายของเขาที่สมัยเด็กได้ถูกพาเข้ามาในนี้แล้วหายตัวไป

โดยสไตล์การเล่าเรื่องของเกมนี้ก็ต้องบอกเลยว่ามันมีความแปลกใหม่ในการนำเสนอมากๆ ตัวเนื้อเรื่องจะมีความซับซ้อนซ่อนเงื่อน รวมถึงในช่วงเริ่มต้นเองเราอาจจะยังไม่สามารถจับต้นชนปลายถูกว่ามันเกิดอะไรขึ้น เราจะต้องหาตามหาอ่านเรื่องราวตามเอกสาร รวมถึงภายในเรื่องถ้าเล่นไปเรื่อยๆ มันก็จะค่อยๆ เผยรายละเอียดทีละนิด โดยในช่วงแรกๆ ตัวเกมมีปริศนาเยอะมาก เนื่องจากการเล่าเรื่องที่ต้องใช้การตีความ มีกลิ่นอายในความติสแตกเหมือนหนังของผู้กำกับคริสโตเฟอร์ โนแลนยุคแรกๆ ยังไงอย่างงั้น แต่ข้อดีคือพอถึงบทสรุปตัวเกมก็เฉลยปมต่างๆ ได้และเคลียดี

แต่ข้อเสียของการดำเนินเรื่องแนวนี้คือ ถ้าคนที่ชอบก็คือชอบไปเลย แต่ถ้าคนไม่ชอบก็จะไม่ชอบไปเลย เพราะการเล่าเรื่องมันไม่ได้อยู่ในเกณฑ์ที่กินง่ายเหมือนเกมอื่น ยิ่งตัวเกมเป็นแนวไซ-ไฟ ที่จะมีศัพท์เทคนิคเข้าใจยากอยู่แล้ว ไหนจะมีปมต่างๆ อีกหลายทบ ไอ้ความติสนี่แหละมันทำให้บางครั้งเราอาจจะตามเนื้อเรื่องไม่ทัน ผิดกับเกมก่อนหน้าอย่าง Quantum Break ที่ต่อให้เป็นแนวไซ-ไฟเหมือนกัน มีศัพท์เทคนิคคล้ายกัน แต่ตัวเนื้อเรื่องเองก็ดำเนินได้ไม่ซับซ้อน มีความซื่อตรงกว่าทำให้เข้าใจง่ายมากกว่า

กราฟิก

กราฟิกของ Control นั้นต้องชมในเรื่องของแสงเงาที่ผู้พัฒนาใส่ใจรายละเอียดตรงนี้เป็นพิเศษ เนื่องจากในเวอร์ชั่น PC ของเกมนี้รองรับระบบ Ray Tracing อีกด้วย ตัวกราฟิกเอกก็สวยตามยุคสมัย แต่ธีมของเกมนี้จะเน้นความลึกลับมากกว่าหลายๆ เกม มันจะมีกลิ่นอายความเป็น Psycho อยู่หน่อยๆ ซึ่งถือว่าทำออกมาได้ไม่เลวเลย

แต่สิ่งที่รู้สึกผิดหวังก็อาจจะเป็นโมเดลของตัวละครที่รู้สึกว่าจะดรอปกว่าเกมก่อนหน้าอย่าง Quantum Break เป็นอย่างมาก มีความรู้สึกว่าคุณภาพของ Motion Capture ของ Control จะดูด้อยกว่าหน่อยๆ รวมถึงฉากคัทซีนต่างๆ ของเกมนี้ก็จะดูน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด และจะเน้นเพียงแค่การที่ NPC ยืนคุยกับเราง่อยๆ เท่านั้น ซึ่งเดาได้ว่างบในการสร้างอาจจะไม่เยอะเท่ากับ Quantum Break ก็เป็นได้เพราะ Microsoft น่าจะมีทุนที่เยอะกว่า 505 Games

รวมถึงสิ่งที่ไม่ชอบเลยก็คือ Performance ของเกมทำออกมาได้ไม่ค่อยจะดีซักเท่าไร ในเวอร์ชั่น PC เพราะคอมพิวเตอร์ที่ผู้เขียนเล่นนั้นก็แรงในระดับหนึ่ง i7 Gen 8 + 1070 แต่จะต้องปรับ Low หรือเรนเดอร์โมเดลให้ถึง 1080p ไม่ค่อยจะได้ เพราะมันจะเกิดอาการหน่วงๆ เฟรมดรอปลงมาจนน่ารำคาญหลายครั้ง

เกมเพลย์

ตัวเกมเพลย์ของ Control เองก็ต้องบอกเลยว่ามันก็จะยังคงความเป็นเกมค่าย Remedy อยู่ ที่จะเป็นเกมแนวเดินหน้ายิง บวกกับความสามารถของตัวละครต่างๆ ที่จะมาช่วยเพิ่มความสนุกให้มากยิ่งขึ้น แต่ความสามารถของตัวละครเอกก็จะแตกต่างตามธีมของเกมไป ซึ่งเกมนี้มีธีมเกี่ยวกับปรากฏการลึกลับเหนือธรรมชาติ มีความเป็นไซ-ไฟบวกอารมณ์ผีสางอยู่หน่อยๆ จึงทำให้ Jesse มีความสามารถในการใช้พลังจิตเป็นหลัก สามารถลอยขึ้นไปในอากาศได้อย่างอิสระ มีพลังที่สามารถเคลื่อนย้ายวัตถุเพื่อใช้โจมตีศัตรูต่างๆ นาๆ

ติดตามรีวิวเกมได้ที่ : Funnygamings

ติดตาม Page Facebook ได้ที่ : Funnygamings