Review game dragon ball z kakarot

dragon ball z kakarot

Review game dragon ball z kakarot มาร่วมย้อนอดีตในวันวาน กับเรื่องราวของ Goku และคนอื่นๆใน DRAGON BALL Z: KAKAROT นอกเหนือจากการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ สัมผัสชีวิตในโลกของ DRAGON BALL Z  และฝึกฝนกับ Goku, Gohan, Vegeta และอื่นๆ และร้องเพลง cha-la head-cha-la อีกครั้ง

Review game dragon ball z kakarot

ถ้าพูดถึง DRAGONBALL นี้คือการ์ตูนระดับตำนานเลยละและสำหรับในโลกของเกมซีรี่ส์ DRAGONBALL จริงๆก็มีออกมาให้เล่นกันมาหลากหลายภาคแล้ว นับตั้งแต่สมัยยุคแฟมิคอม ทั้งรูปแบบเกมการ์ดเกม RPG จวบจนมาเป็นเกม ACTION เกม FIGHTING และอีกหลายเกมในรูปแบบต่างๆนับรวมจริงๆก็เยอะอยู่พอสมควร จึงทำให้พวกเราต่างคุ้นเคยกันดีกับเนื้อเรื่อง และตัวละครกระบวนท่าจึงเรียกได้ว่าเราจะว้าวไปกับเกมซีรี่ย์นี้อีกครั้ง และร้องเพลง cha-la head-cha-la และ ปลดปล่อพลังครื่นเต่าสะท้านฟ้ากันอีกครั้ง

เนื้อเรื่อง

อย่างที่บอกว่าเกมนีจะดำเนินเรื่องราวในช่วงภาค DRAGON BALL Z เนื้อเรื่องหลังจากที่จัดการจอมมารปีศาจพิคโคโร่และศึกชิงเจ้ายุทธภพ ซุน โกคู ตัวเอกของเรื่องก็ถึงช่วงโตเต็มไวแต่งงานและมีลูกอย่าง โกฮัง โดยการเล่าเรื่องนั้นจะเหมือนกับต้นฉบับเป๊ะๆ ตั้งแต่บทของ ราดิช ไปจนถึงตัวสุดท้ายคือ จอมมารบลู เลยทีเดียวรวมถึงการนำเสนอของเกมนี้ที่ได้เล่าเรื่องให้อารมณ์เป็นเชิงการ์ตูนมากๆ ใครที่เคยดูการ์ตูนยุคเก่าจะจำได้เลยว่ามันมักจะมีการนำเสนอตอนว่า ตอนนี้ชื่ออะไรซึ่งภายในเกมนี้ใส่อะไรแบบนี้ในการแบ่งช่วงเนื้อเรื่อง และก็ต้องบอกว่าอะไรแบบนี้มันช่วยมาเติมเต็มความทรงจำในวัยเด็กเราได้ดีเป็นอย่างมาก[เหมือนจะแก่] พร้อมทั้งบทพูดต่างๆของเกมนี้เองเหมือนคุณกำลังนั่งดูการ์ตูนเรื่องนี้จริงๆ และที่พิเศษก็คือความรวบรัดของเนื้อเรื่องที่มีสเกลเทียบเท่ากับในหนังสือการ์ตูนมังงะมากๆไม่มีฉากชาร์จพลัง และ FLASH BACK สุดยาวเหยียดแล้ว ทำให้การเสพเนื้อเรื่องมีความอรรถรสมากพอสมควร แต่ถึงอย่างนั้นเนื่องจากมันเป็นการเอาเนื้อเรื่องของการ์ตูนภาคหนึ่งมาใส่โดยแทบไม่ตัดเนื้อหาสำคัญเลย บวกกับเกมเพลย์ต่างๆ เราก็จะใช้เวลาเล่นเกมนี้ไม่ต่ำกว่า 25-30 ชั่วโมงในการเคลียร์ MAIN QUEST รวมถึงระหว่างเนื้อเรื่องยังมีการสอดแทรก เนื้อเรื่องเล็กๆระหว่างเนื้อเรื่องหลักเข้ามาอย่างเช่น การฝึกฝนของ โกฮัง กับ พิคโคโร หรือช่วงการฝึกวิชาสามปีเพื่อต่อสู้กับหมายเลข 17-18 โดยรวมก็ทำออกมาได้น่าสนใจนะ

โลกกว้างมีให้สำรวจ

จากตัวอักษร Z ห้อยท้ายไม่ต้องบอกเหล่าแฟนๆก็คงพอเดาออกถึงเนื้อหาแคมเปญทั้งหมดภายในเกม ที่เริ่มต้นเปิดฉากด้วยภาคชาวไซย่าบุกโลก เรื่อยไปจนจบสิ้นที่ภาคจอมมารบู ซึ่งด้วยความที่พวกเขาได้หยิบนำฉากเหตุการณ์สำคัญๆ รวมถึงรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆมาเล่าถ่ายทอดแบบเก็บหมดทุกเม็ดไม่มีข้ามขั้นตอน จึงทำให้ตัวเกมภาคนี้ค่อนข้างยืดยาวกินเวลาเล่นนานกว่าภาคไหนๆ นี่ยังไม่นับรวมเหล่าเรื่องราวเสริม ช่วงคั่นเวลา รอยต่อระหว่างภาค ยามที่โลกสงบสุขก่อนขึ้นบทใหม่ไปเจอวายร้ายตัวถัดไป มันก็จะมีเควสต์จิปาถะนอกเนื้อเรื่องหลักผุดขึ้นมาให้ได้ทำ ไปพูดคุยกับคนนั้นคนนี้ หาวัตถุดิบมาปรุงเมนูอาหาร หรือฝึกฝนวิชาเรียนรู้ท่าไม้ตายใหม่ๆ ซึ่งปริมาณเรื่องราวส่วนเสริม FILLER ที่ถูกยัดสอดแทรกเข้ามาเหล่านี้ จึงทำให้เรารู้สึกว่าตัวเกมภาคนี้ดูจะเอนเอียงหนักไปทางวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของตัวละคร มากกว่าการต่อสู้ที่ควรเป็นหัวใจหลักเสียอีก

การเล่นเกม

DRAGON BALL ที่ไม่ใช่เกม FIGHTING เสียทีในหัวข้อเกมเพลย์นี้จะยาวเป็นพิเศษ เพราะมีหลายอย่างที่ทุกคนจะต้องรู้ ข้อแรก กว่าคุณจะปลดล็อคคอนเทนต์ในเกมได้ทั้งหมดนั้น ก็ต้องเป็นช่วงหลังจบเหตุการณ์ภาคฟรีซเซอร์ ซึ่งบางคนอาจใช้เวลาเล่นไปราว 18 ชั่วโมงเลยทีเดียวซึ่ง 18 ชั่วโมงนี้ไปทำภารกิจเสริมมาประมาณ 3-4 ภารกิจเท่านั้น และถ้าหากกด SKIP CUTSCENE หลายๆฉากรวมกัน ก็น่าจะลดเวลาลงไปได้ร่วมชั่วโมงอยู่เหมือนกัน ก่อนอื่นเลยคือตัวเกมในภาคนี้ใส่ความเป็น RPG เข้ามาแต่มันก็ไม่ได้บังคับให้คุณต้อง GRINDING หรือฟาร์มยับๆขนาดนั้นในช่วงแรก เพราะเนื้อเรื่องของเราจะให้รางวัลเป็น EXP ที่จะช่วยให้เลเวลของเราไม่ห่างกับศัตรูจากเนื้อเรื่องหลักมากเกินไปนัก แต่ถ้าหากผู้เล่นไปฟาร์มเลเวลจากเหล่าศัตรูภายในแผนที่ก็ย่อมได้ แต่รางวัลที่ได้จะไม่ค่อยเป็นค่า EXP แต่จะเป็นสิ่งที่เรียกว่า Z-ORB Z-ORB ภายในเกมนี้สำคัญมากเพราะมันใช้ในการอัพเกรดสกิลต่างๆ ของตัวละครซึ่งแต่ละสกิล แต่ละตัวละครก็ก็จะต้องการ Z-ORB ที่แตกต่างกันออกไปโดยหาได้จากการบินเก็บจากแผนที่โดยตรง และการต่อสู้กับเหล่าศัตรู ซึ่งจะได้มากกว่าเยอะใครที่ว่าง หรือบินไปบินมาทำภารกิจก็ไปไล่เก็บเอาก็ได้ เพราะปกติ Z-ORB จะวางเป็นแนวเส้นตรง ทำให้เราบินเก็บได้อย่างง่ายดาย

ภารกิจหลักของเกม

KAKAROT เป็นเกมแนว ACTION RPG ที่เริ่มตั้งแต่เนื้อเรื่องของภาค DRAGONBALL Z ที่โกคู ตัวเอกของเรื่องไปแต่งงานกับจีจี้ และมีลูกซึ่งก็คือ โกฮัง โดยระหว่างนั้น เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับชาวไซย่าที่บุกมายึดครองโลก ไล่ไปเรื่อยๆตามเนื้อเรื่องของมังงะจนจบที่ตัวร้ายสุดของภาค Z ซึ่งก็คือ จอมมารบู โดยภารกิจหลักของเกมก็คือ การต่อสู้กับเหล่าร้ายตามเนื้อเรื่องไปจนจบภาคนั่นเลยละครับ ส่วนที่ดีงามก็คือ ตรงจุดนี้ละครับ เพราะการต่อสู้กับเหล่าร้ายที่ว่า มันมีความเป็น ACTION และมีกระบวนท่าที่ให้ยิงใส่กัน ก็เล่นกันแบบถล่มทลาย ความรู้สึกแบบเดียวกับการอ่านการ์ตูน DRAGONBALL สมัยก่อนเลยเหมือนสมัยนั่งดูน้าต๋อยในพากการ์ตูนช่อง 9เลยละแก่แล้วนะ การกดปุ่มท่าต่างๆ ไม่ยากเด็กๆ ก็สามารถเล่นได้ มีช่วงของการกดสโลโมชั่นให้ตัดสินใจใช้ท่าได้ ส่วนการต่อยเตะ ต้องบอกว่าทำได้เหมือนฉบับการ์ตูนมากๆ บอกเลยว่าช่วงสู้กันเป็นอะไรที่ฟินมากนี้ละ DRAGONBALL มันต้อง FELLING แบบนี้ ส่วนของเนื้อเรื่องดำเนินไปได้ค่อนข้างละเอียด เก็บรายละเอียดได้ดีมาก ช่วงวุ่นวายๆ ตอนผจญภัยในดาวนาแม็ก ความสลับซับซ้อนช่วงมนุษย์ดัดแปลง ก็เก็บรายละเอียดได้ดี

กราฟิก และ เอฟเฟกต์ตระการตา

กราฟิกภายในเกมเป็นอีกหนึ่งเกมที่ทำออกมาได้ดีมาก เกมจะใช้ภาพแบบเซลล์เฉด ภาพแบบการ์ตูนมีลายเส้น 3 มิติ สีสันสดใสสวยงามต่างจาก XENOVERSE 2 ภาพจะออกมีแสงเงาที่เข้มกว่า และโทนสีหม่นกว่าเล็กน้อย ภาพสิ่งแวดล้อมที่ถูกทำออกมาได้ดี รวมถึงบรรยากาศภายในเกมที่แอนิเมชั่นการเคลื่อนไหวลื่นไหลเป็นธรรมชาติ ไม่ขัดตาไม่ว่าจะเป็นฉากปกติทั่วไป จนถึงฉากต่อสู้ที่ถูกทำแอนิเมชั่นออกมาได้ดีมาก การเคลื่อนที่แบบวาร์ปทำออกมาได้ถึงใจ ท่าโจมตีการปล่อยพลังทั้งหลายทำออกมาได้สะใจคอเกมสายบู๊อย่างแน่นอน แต่ที่ต้องชื่นชมมากกว่านั้นคือ เอฟเฟกต์การต่อสู้ที่ทำออกมาได้อลังการงานสร้าง ต้องบอกเลยว่าใครที่ชื่นชอบเล่นเกมการ์ตูนที่มีเอฟเฟกต์อลังการ เกมนี้ไม่ทำให้ผิดหวังแน้นอน

สรุปเกม

DRAGON BALL Z : KAKAROT คือการพิสูจน์ตัวเองของ BANDAI NAMCO และ CYBERCONNECT2 ว่าพวกเขาไม่ได้มีดีแค่ทำเกม FIGHTING หรือใช้แบรนด์อนิเมะชื่อดังที่มีอยู่ในมือมาทำเกมดาดๆ เท่านั้น เพราะนำเสนอได้อารมณ์เหมือนชมการ์ตูน, ฉากบินสำรวจสนุกฉับไว, แผนที่โลกกว้างใหญ่ใส่ใจดีเทล, ระบบการต่อสู้ทำออกมาได้ดีไม่แพ้ซีรีส์นารูโตะเลยละ, เพลงประกอบติดหูจากต้นฉบับ, ซับไทยแปลเยี่ยมโดนใจชาวไทยแน่นอน, บรรยากาศฟีลเก่าๆมาครบ DRAGON BALL Z : KAKAROT ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งเกมจากการ์ตูนที่ได้ใจแฟนๆ ดราก้อนบอลไปเต็มๆคอเกมก็เล่นได้ เพราะเนื้อเรื่องครบถ้วน และเป็นเกมที่สาวก DBZ ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง มาร่วมกันย้อนวัยในวันวานกันอีกครั้งกับเกมของการ์ตูนระดับตำนาน DRAGON BALL Z

ประเภท : ACTION RPG
เครื่อง : PS4 / PC/ XBOX ONE
พัฒนาโดย : CYBERCONNECT2 / BANDAI NAMCO
วันวางจำหน่าย :17 มกราคม 2020

ติดตามรีวิวเกมได้ที่ : เกม ACTION

ติดตาม Page Facebook ได้ที่ : Funnygamings