Review Ratchet & Clank Rift Apart คู่แฝดแหวกมิติ แสนสนุก

Ratchet & Clank Rift Apart

Review Ratchet & Clank Rift Apart คู่แฝดแหวกมิติ แสนสนุก การออกแบบภาพและเสียงที่ยอดเยี่ยม การควบคุมการตอบสนองแบบสัมผัสที่สมจริง เรื่องราวและตัวละครที่น่ารัก การต่อสู้ที่น่าตื่นเต้นและการผจญภัยทะลุมิติ กับการวางแพลตฟอร์มที่เน้นอาวุธ

Review Ratchet & Clank Rift Apart คู่แฝดแหวกมิติ แสนสนุก

นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Ratchet & Clank: Rift Apart เป็นหนึ่งในเกมที่ทุกคนรอคอยมากที่สุดในปี 2021 และเป็นหนึ่งในซีรีส์เกมที่ดำเนินมายาวนานที่สุด และเปิดตัวบน PlayStation 5 ในชื่อใหม่ล่าสุดของ Insomniac Games เป็นประสบการณ์ใหม่และเพิ่มการควบคุมการตอบสนองแบบสัมผัสได้ดี และเวลาในการโหลดที่รวดเร็วอย่างเห็นได้ชัด Ratchet & Clank: Rift Apart เป็นภาคต่อของ Into the Nexus ในปี 2013  อีกครั้งกับคู่หูที่พยายามจะขัดขวางแผนการร้ายของ Dr. Nefarious เป็นศัตรูตัวฉกาจมานาน คราวนี้ อุบายของหุ่นยนต์ขี้ขลาดคุกคามกาแล็กซีและจักรวาลที่กว้างใหญ่ไพศาล Ratchet และ Clank เต็มไปด้วย Nefarious และสมุนหุ่นยนต์ของเขา

เนื้อเรื่องย่อ

หลังการปกป้องจักรวาลของ Ratchet และ Clank ครั้งล่าสุด ผู้คนต่างพากันจัดงานสรรเสริญและยกย่องให้พวกเขาทั้งคู่ในฐานะซุปเปอร์ฮีโร่ แต่ระหว่างงานเฉลิมฉลองดังกล่าว เจ้าวายร้าย Dr. Nefarious ได้บุกมาขโมยเครื่อง Dimensionator [เครื่องเคลื่อนย้ายทะลุมิติ] ที่ Clank เตรียมไว้ให้ Ratchet เพื่อออกตามหาครอบครัวและเผ่าพันธุ์ Lombax ของคนอื่นๆ มื่อเกิดเหตุวุ่นวายขึ้น และเกิดภาวะมิติแปรปรวน Ratchet และ Clank ได้ผลัดหลงกันไปคนละมิติ พวกเขาทั้งสองจึงต้องออกตามหากันให้เจอ และจัดการกับเหตุการณ์วุ่นวายนี้ให้ได้ โดยหารู้ไม่ว่า Rivet หนึ่งในเผ่าพันธุ์ Lombax ที่อยู่คนละมิติ ก็กำลังเข้ามาจัดการเรื่องนี้เช่นกัน

กราฟิกและภาพ

กราฟิกไม่มีที่ติเลยกับ Ratchet & Clank: In Another Dimension เกมดังกล่าวมีรูปลักษณ์ที่ล้ำสมัย พร้อมด้วยฉากที่สวยงามมากและเต็มไปด้วยข้อมูล ตลอดจนสีและแสงที่จะทำให้คุณอ้าปากค้าง ทั้งในฉากภาพยนตร์และในเกม การสร้างสภาพสิ่งแวดล้อมนั้นน่าประทับใจมาก เพราะเกมนี้ที่มีจุดประสงค์เพื่อให้สมจริง R&C สามารถนำเสนอรูปลักษณ์ที่มีไดนามิกและมีรายละเอียดดีมาก ตัวละครยังมีลักษณะเฉพาะตัวและแสดงออกได้เป็นอย่างดี ตลอดทั้งเกม แม้แต่ศัตรูก็ออกแบบมามีปฏิกิริยาตอบสนองที่หลากหลาย โดยวิธีการที่ตัวร้ายเป็นไฮไลต์ โดยเฉพาะผู้บังคับบัญชาขนาดยักษ์ซึ่งนอกจากจะสนุกในการเผชิญหน้าแล้วยังมีฉากที่เจ๋งๆอีกมากมาย เนื้อหาที่ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมของภาพในเกม คือสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน เมื่อคุณเดินทางระหว่างมิติและสถานที่ต่างๆ คุณจะพบสถานที่ที่แตกต่างกันมาก ตั้งแต่ทุ่งหญ้าสะวันนาไปจนถึงเมืองสไตล์ไซเบอร์พังค์แห่อนาคต นอกเหนือจากการนำสถานการณ์ต่างๆ มาใช้แล้ว การเดินทางยังช่วยให้คุณมีโอกาสพบกับสัตว์ประหลาดทุกรูปแบบและสัมผัสกับสถานการณ์ที่หลากหลาย

การเล่นเกม

เกมดังกล่าวมีรูปแบบการเล่นที่ง่ายมาก โดยอิงจากการกระโดด ยิง และหลบแบบเก่า อย่างไรก็ตาม มันทำให้เกิดพลวัตบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงตลอดประวัติศาสตร์ และทำให้ทุกอย่างน่าสนใจยิ่งขึ้น อย่างแรกเกี่ยวกับอาวุธในเกม คุณสามารถเข้าถึงอาวุธใหม่ๆได้หลายแบบ พร้อมการโจมตีประเภทต่างๆ และปรับให้เข้ากับศัตรูแต่ละประเภทที่คุณเผชิญหน้า สิ่งนี้ทำให้การต่อสู้โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบอสเป็นไดนามิกที่ยอดเยี่ยม ทุกอย่างเป็นไปอย่างรวดเร็วและบ้าคลั่งเมื่อคุณหลบการโจมตีและหาวิธีโจมตีศัตรูต่อไป นอกจากนี้ การสำรวจสถานการณ์ยังดำเนินการในลักษณะที่การเล่นเกมมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในแต่ละแผนที่ ในบางครั้งคุณจำเป็นต้องคว้าพอร์ทัลเพื่อเทเลพอร์ต แต่ในบางครั้ง คุณจะต้องเล่นสกีด้วยความเร็วสูงบนหอยทาก หรือสำรวจพื้นที่ที่มีแรงโน้มถ่วงต่ำซึ่งเกือบจะลอยอยู่ สิ่งนี้สร้างความท้าทายให้กับผู้เล่นมากขึ้น และทำให้การสำรวจเกมสนุกขึ้นมาก

จุดเด่นของเกม

งานภาพ กราฟิก อนิเมชั่น การเคลื่อนไหวต่างๆ ของตัวละครทำออกมาได้สวยงามและเนียนตา อีกทั้งพล็อตก็มีการลำดับเนื้อเรื่องออกมาได้ดีมากๆเหมือนกับ เราดูการ์ตูนอนิเมชั่นเลยละ เฟรมเรตแทบไม่มีการร่วงหนักๆ ให้เห็นแม้จะเล่นในโหมด Fidelity ที่เน้นความคมชัดของภาพก็ตาม โหมด Performance RT คือดีมาก การที่ได้เล่นด้วยเฟรมเรต 60 FPS นิ่งๆ พร้อมกับประสิทธิภาพจาก Ray Tracing แม้ว่าจะเล่นบนจอ 1080p ทำให้รู้สึกว่านี่คือเกม Next-Gen จริง ๆ เกมในช่วงผจญภัยมีความหลากหลาย แต่ละดาวจะมีรูปแบบในการลุยที่แตกต่างกัน ซึ่งครบทุกรสชาติทั้งบทบู๊ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และช่วงที่เป็นปริศนาก็ไม่ซับซ้อนเกินไป และก็มีความท้าทายอื่นๆ เพิ่มเข้ามาทั้งความโหดของศัตรูและอาวุธที่อัปเกรดขึ้น

สนุกไหม

ต้องบอกเลยว่า Ratchet & Clank ภาคใหม่นี้มีจุดเน้นนั่นคือ ความสนุก นอกจากจะน่าสนใจในเกมแล้ว ยังมีบทสนทนาตลกและสถานการณ์ที่ตลกมาก เพื่อสร้างบรรยากาศให้เบาสมองในระหว่างการผจญภัย ตัวละครยังเติมเต็มบทบาทได้ดี โดยเฉพาะตัวสนับสนุน เนื่องจากตัวเอกไม่ได้มีเสน่ห์ดึงดูดมากนัก แน่นอนว่าทุกอย่างสามารถพัฒนาได้ดีขึ้น แต่นั่นอาจนำไปสู่เกมที่เข้มข้นและดึงออกมากขึ้น การรักษาโมเมนตัมนั้นน่าสนใจในระดับที่เหมาะสม ถือได้ว่าทั้งเข้มข้น ทั้งสนุกจนวางจอยไม่ลงเลยละ

สรุปแล้ว Ratchet & Clank: Rift Apart ถือว่าเป็นอีกเกมที่มีคุณภาพและเป็นเกมระดับtop อีกเกมหนึ่งของPlayStation แถมยังยกระดับการเล่นให้มีลูกเล่นหลากหลายมากขึ้น แถมเนื้อเรื่องและตัวละครทำออกมาให้มีความน่าสนใจจนอยากเล่นภาคต่อไปในอนาคตอีกด้วย สำหรับคนที่ยังไม่เคยเล่นภาคก่อนมา ถ้าหากมาเริ่มเล่นที่ภาคนี้เลยอาจจะมีงงเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างแรทเช็ตกับบางตัวละครอยู่บ้าง ซึ่งเมื่อเล่นภาคนี้จบแล้วอาจจะต้องไปตามหา Ratchet & Clank ภาคที่ลง PS4 เมื่อปี 2016 มาเล่นดูเพื่อปะติดปะต่อเรื่องราวให้เข้าใจยิ่งขึ้น ในส่วนของคนที่เป็นแฟนเกมนี้อยู่แล้ว คุณไม่ควรพลาดกับการที่จะเล่นภาคนี้แน่นอน เพราะภาคนี้ได้ถูกพัฒนาขึ้นจากภาคปี 2016 ให้ดีขึ้นที่สุดถือเป็นภาคที่คุณไม่ควรพลาดจริงๆ

แพลตฟอร์ม: PS5,แนวเกม: แอ็คชั่น ชู้ตติ้ง,ผู้พัฒนา: Insomniac Games,วันวางจำหน่าย: 11 มิถุนายน2021

ติดตามรีวิวเกมได้ที่ : เกม  PLAYSTATION

ติดตาม Page Facebook ได้ที่ : Funnygamings